รอยยิ้มสวยที่ได้จากการจัดฟัน ไม่ได้จบลงเพียงแค่การถอดเครื่องมือจัดฟันเท่านั้น เพราะยังมี “รีเทนเนอร์” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษารอยยิ้มสวยนั้นให้คงอยู่ แต่ปัญหา “รีเทนเนอร์แน่นเกินไป” กลับเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเกิดจากการไม่ได้ใส่ตามกำหนด การที่ฟันเริ่มเคลื่อนที่กลับไปตำแหน่งเดิม หรือการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างปาก จนทำให้ใส่รีเทนเนอร์ลำบาก เจ็บปวด หรือใส่ไม่เข้าเลย แล้ววิธีปรับรีเทนเนอร์แน่นเกินไปมีแบบไหนบ้างที่ปลอดภัยและได้ผลจริง บทความนี้จะมาประมวลให้เข้าใจ พร้อมเรียนรู้เทคนิคการปรับรีเทนเนอร์ด้วยตัวเองในเบื้องต้น
Table of Contents
Toggle1. ทำความเข้าใจ “รีเทนเนอร์แน่นเกินไป”
ก่อนที่จะเริ่มแก้ไขปัญหา การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและสัญญาณของรีเทนเนอร์แน่นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้คุณสามารถวินิจฉัยปัญหาเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง และเลือกใช้วิธีแก้ไขที่เหมาะสม
สาเหตุหลักของรีเทนเนอร์แน่น
การที่รีเทนเนอร์รู้สึกแน่นหรือใส่ยากนั้น มักเกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย ซึ่งการทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง โดยสาเหตุหลักที่พบบ่อยมีดังนี้
- การไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามกำหนด – เมื่อคุณไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์เป็นเวลานาน ฟันจะค่อย ๆ เคลื่อนที่กลับไปตำแหน่งเดิมตามธรรมชาติ ทำให้รีเทนเนอร์ไม่พอดีกับรูปทรงของฟันในปัจจุบัน
- ฟันเคลื่อนที่กลับไปตำแหน่งเดิม (Relapse) – แม้ว่าคุณจะใส่รีเทนเนอร์ตามกำหนด แต่หากมีปัจจัยเสริมอื่น ๆ เช่น การกัดฟัน การบีบฟัน หรือพฤติกรรมที่ส่งผลต่อตำแหน่งฟัน ก็อาจทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้
- การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างปากตามอายุ – เป็นกระบวนการธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะในวัยรุ่นที่ร่างกายยังมีการเจริญเติบโต หรือผู้ใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกและเนื้อเยื่อเหงือก ซึ่งอาจส่งผลให้รีเทนเนอร์ไม่พอดีกับปากอีกต่อไป
- รีเทนเนอร์เก่าหรือเสียรูป – จากการใช้งานเป็นเวลานาน การทำความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี หรือการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้รีเทนเนอร์เปลี่ยนรูปและไม่กระชับกับฟันเหมือนเดิม
สัญญาณเตือนที่ต้องสังเกต
การรับรู้สัญญาณเตือนเบื้องต้นจะช่วยให้คุณจัดการปัญหาได้ทันท่วงที ก่อนที่ปัญหาจะรุนแรงและยากต่อการแก้ไข โดยสัญญาณสำคัญที่ต้องระวังมีดังนี้
- ใส่รีเทนเนอร์ยากหรือใส่ไม่เข้า – หากคุณต้องออกแรงมากกว่าปกติในการใส่ หรือรู้สึกว่ารีเทนเนอร์ไม่เข้าที่เหมือนเดิม นั่นแสดงว่าอาจมีปัญหาเริ่มต้นขึ้นแล้ว
- รู้สึกเจ็บหรือแน่นผิดปกติ – เมื่อใส่รีเทนเนอร์แล้วรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงและนานกว่าปกติ เมื่อเทียบกับความรู้สึกคับแน่นเล็กน้อยที่เป็นอาการปกติของการปรับตัวให้เข้ากับรีเทนเนอร์ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าฟันได้เคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิมไปมากพอสมควร
- เหงือกอักเสบหรือบาดเจ็บ – รีเทนเนอร์ที่ไม่พอดีอาจกดทับหรือเสียดสีกับเหงือก ทำให้เกิดการอักเสบ บวม หรือแม้กระทั่งเกิดแผลในช่องปาก
- รีเทนเนอร์หลุดง่ายหรือไม่กระชับ – หากรีเทนเนอร์ที่เคยกระชับดีกลับกลายเป็นหลวมหรือหลุดง่าย อาจเป็นสัญญาณว่ารีเทนเนอร์เสียรูปหรือฟันได้เคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิมแล้ว
2. วิธีการปรับรีเทนเนอร์ที่แน่นเกินไป
หากรู้สึกว่ารีเทนเนอร์แน่นกว่าปกติ การแก้ไขเบื้องต้นสามารถทำได้ที่บ้านโดยไม่เป็นอันตราย ซึ่งวิธีที่นิยมคือ
การใส่รีเทนเนอร์เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อน
โดยเริ่มจากการใส่เพียง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงในช่วงแรก จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มเวลาการใส่ทีละน้อยเมื่อฟันเริ่มคุ้นเคย วิธีนี้จะช่วยให้ฟันได้ปรับตัวและเคลื่อนที่กลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะการใส่ก่อนนอนและถอดในตอนเช้าจะเป็นจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากช่วงกลางคืนฟันจะมีการเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
โดยการใส่รีเทนเนอร์ควรใช้เทคนิคที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ เริ่มจากวางรีเทนเนอร์ให้ตรงกับฟันหน้าแล้วค่อย ๆ กดเบา ๆ ด้วยปลายนิ้ว โดยกระจายแรงไปทั่ว ไม่ควรกดแรงที่จุดใดจุดหนึ่งหรือใช้ฟันกัดเพื่อดันรีเทนเนอร์ เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกเจ็บมากขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รีเทนเนอร์แตกหรือเสียรูปได้
การใช้ความน้ำอุ่นช่วยปรับรีเทนเนอร์
โดยการแช่รีเทนเนอร์ในน้ำอุ่น (ไม่ร้อนจัด) เป็นเวลา 1-2 นาที จะทำให้วัสดุของรีเทนเนอร์อ่อนตัวลงเล็กน้อย ทำให้ใส่ได้ง่ายขึ้น หลังจากแช่แล้วให้ใส่รีเทนเนอร์ทันที แล้วกัดแผ่นซิลิโคนหรือผ้าแป้งเพื่อช่วยกระชับเป็นเวลา 5-10 นาที อย่างไรก็ตาม ต้องระวังไม่ให้น้ำร้อนเกินไป เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์เสียรูปได้
3. ข้อควรระวังในการปรับรีเทนเนอร์ด้วยตัวเอง
แม้ว่าการปรับรีเทนเนอร์เองที่บ้านจะช่วยบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ แต่ก็มีข้อควรระวังหลายอย่างที่ไม่ควรมองข้าม เช่น
- ไม่ควรงอ ดัด หรือบีบรีเทนเนอร์ด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เสียรูปจนไม่สามารถใช้งานได้
- ไม่ควรใช้เครื่องมือแหลมคมพยายามแก้ไข
- ไม่ควรแช่รีเทนเนอร์ในน้ำร้อนจัดและสารเคมีต่าง ๆ เนื่องจากจะทำให้วัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
เมื่อไรต้องพบหมอฟัน
ในบางครั้งการแก้ไขด้วยตัวเองอาจไม่เพียงพอ เพราะหากทำตามวิธีปรับรีเทนเนอร์ด้วยตัวเองที่ปลอดภัยแล้วแต่เมื่อใส่รีเทนเนอร์ยังมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์ทันที
- รีเทนเนอร์แตกหรือเสียรูปจนไม่สามารถใช้งานได้
- รู้สึกเจ็บปวดมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- เหงือกอักเสบ มีเลือดออก หรือบาดเจ็บรุนแรง
- ไม่สามารถใส่ได้เลย แม้จะพยายามแล้วอย่างระมัดระวัง
โดยการเข้าพบทันตแพทย์แต่เนิ่น ๆ จะทำให้ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องตรงจุดมากที่สุด ช่วยป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงและปัญหาฟันเคลื่อนมากกว่าเดิมจากการฝืนใส่รีเทนเนอร์ที่แน่นเกินไปเป็นเวลานาน
4. เทคนิคการดูแลรีเทนเนอร์อย่างถูกต้อง
การดูแลรีเทนเนอร์ไม่ใช่เพียงเพื่อความสะอาดหรือยืดอายุการใช้งานเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่จะช่วยป้องกันไม่ให้รีเทนเนอร์บิดเบี้ยว เสื่อมสภาพ หรือแน่นเกินไปจนใช้งานไม่ได้ หากคุณใส่ใจดูแลตั้งแต่แรก จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาและทำให้การใส่รีเทนเนอร์เป็นเรื่องสบายใจ สบายช่องปากมากขึ้น
การทำความสะอาด
หลังการใช้งานทุกครั้งควรถอดรีเทนเนอร์ออกมาแปรงด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มและน้ำเปล่า เพื่อกำจัดคราบสะสมที่อาจทำให้เกิดการเสียดสีหรืออักเสบได้ ควรแช่ในน้ำยาล้างฟันปลอมสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ต้องหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนจัดหรือยาสีฟันที่มีสารขัด เนื่องจากจะทำให้รีเทนเนอร์เสียรูปได้ง่าย นอกจากนี้ควรเก็บรีเทนเนอร์ในกล่องที่สะอาดและแห้ง เพื่อรักษาสภาพให้นานที่สุด
การใส่และถอดที่ถูกวิธี
การใส่และถอดรีเทนเนอร์อย่างระมัดระวังถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการป้องกันปัญหาแน่น ควรใช้สองมือในการจัดการรีเทนเนอร์ เพื่อกระจายแรงอย่างสมดุล หลีกเลี่ยงการใช้ลิ้นดันหรือกัดรีเทนเนอร์ เพราะอาจทำให้แตกหักหรือบิดเบี้ยวได้ และทุกครั้งที่ใส่ควรตรวจสอบว่ามีความกระชับพอดี หากพบว่ารู้สึกแน่นผิดปกติ ไม่ควรฝืน แต่ควรหาสาเหตุและแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ
5. การป้องกันปัญหารีเทนเนอร์แน่น
การป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหารีเทนเนอร์แน่น ใส่ยาก หรือเจ็บปวดจนใช้งานไม่ได้ โดยมี 2 สิ่งที่ควรทำดังนี้
การสร้างนิสัยที่ดีในการดูแลฟันหลังจัดฟัน
ควรใส่รีเทนเนอร์ตามที่ทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด และไม่ควรเว้นช่วงการใส่นานเกินไป เพราะฟันสามารถเคลื่อนตัวกลับได้อย่างรวดเร็ว เมื่อฟันเคลื่อน รีเทนเนอร์ที่เคยพอดีก็จะกลายเป็นแน่นเกินไป ดังนั้น การเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและรีเทนเนอร์ทุก 6 เดือน จึงเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาบานปลายตั้งแต่เนิ่น ๆ
การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม
การดูแลสุขภาพช่องปากให้แข็งแรงช่วยป้องกันการอักเสบ เหงือกบวม และการกดทับที่ทำให้รีเทนเนอร์แน่นขึ้นกว่าเดิม โดยควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียวในขณะใส่รีเทนเนอร์ งดสูบบุหรี่ซึ่งส่งผลเสียต่อเหงือก และหมั่นดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในช่องปาก ทั้งหมดนี้คือวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้รีเทนเนอร์พอดี ใส่ง่าย และไม่เกิดอาการแน่นเกินไปในระยะยาว
6. ทางเลือกเมื่อรีเทนเนอร์แน่นมาก
หากปัญหารีเทนเนอร์แน่นเกินไปไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีเบื้องต้นแล้ว จำเป็นต้องพิจารณาทางเลือกอื่นโดยปรึกษาทันตแพทย์ ซึ่งมีอยู่ 2 ทางเลือกหลัก ได้แก่
การทำรีเทนเนอร์ใหม่
กรณีที่รีเทนเนอร์เก่าแตก เสียรูป หรือฟันเคลื่อนมากจนไม่พอดี การทำรีเทนเนอร์ใหม่ถือเป็นวิธีแก้ไขที่ตรงจุด ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากใหม่และเลือกประเภทรีเทนเนอร์ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นแบบใสที่ดูเรียบง่าย หรือแบบลวดที่ทนทาน ซึ่งโดยทั่วไปการทำรีเทนเนอร์ใหม่ใช้เวลาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละเคส
การปรับปรุงตำแหน่งฟัน
หากฟันเคลื่อนตัวมากจนรีเทนเนอร์ใหม่เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ อาจต้องใช้วิธีจัดฟันเพิ่มเติม หรือใช้เครื่องมืออย่าง Clear Aligner เพื่อแก้ไขฟันที่เคลื่อนเล็กน้อย โดยการตัดสินใจในกรณีนี้จำเป็นต้องได้รับการประเมินจากทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน เพื่อให้ได้แนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
ปัญหา “รีเทนเนอร์แน่นเกินไปต้องเปลี่ยนไหม ?” ไม่ใช่เรื่องที่มองข้ามได้ เพราะอาจส่งผลต่อผลลัพธ์การจัดฟันที่คุณได้ลงทุนทั้งเงินและเวลาไปมากมาย ที่ About Tooth Dental Clinic เราเข้าใจดีถึงปัญหานี้ และมีทันตแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลรีเทนเนอร์ การปรับปรุงรีเทนเนอร์ หรือการทำรีเทนเนอร์ใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพฟันปัจจุบันของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบความกระชับของรีเทนเนอร์ การแนะนำวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง หรือการวางแผนการรักษาเพิ่มเติมหากจำเป็น
สามารถนัดหมายเพื่อรับคำปรึกษาและตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อให้รอยยิ้มสวยของคุณคงอยู่ตลอดไป ได้ที่ About Tooth Dental Clinic ทั้งสาขาสยามและปุณณวิถี เดินทางสะดวก ติด BTS ทั้งสองแห่ง สอบถามรายละเอียดหรือนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 087-555-4665, 080-481-5555 หรือทาง LINE OA : @abouttooth (มี @ ด้วย)
ข้อมูลอ้างอิง
When Your Retainer Feels Tight: Navigating the Next Steps. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 จาก https://aaoinfo.org/whats-trending/my-retainer-feels-tight-can-i-still-wear-it/

ทพญ. ปภัทสรา วีระพล ทันตแพทย์ด้านทันตกรรมจัดฟัน ทันตกรรมรากฟันเทียม และเฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์ (วีเนียร์ ฟันปลอม) สำเร็จการศึกษาจากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 2 ต่อมาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาทันตกรรมประดิษฐ์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีประสบการณ์การทำงานยาวนานและได้รับประกาศนียบัตรทันตกรรมทั่วไปขั้นสูง รวมไปถึงใบรับรองผู้ให้บริการจัดฟันแบบใส Invisalign ระดับ Platinum Provider 2021 และ Zenyum ระดับ Star tier 2023
ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้ง About Tooth Dental Clinic ซึ่งได้รับรางวัล World Class Award 2021 สาขา The Best of International Healthy Business ตลอดจนดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสมาคมทันตกรรมรากเทียมแห่งประเทศไทย (TADI) และสมาคมทันตกรรมประดิษฐ์ไทย (Prosthodontic)